สะพานฟัน เป็นฟันปลอมชนิดติดแน่น ที่ใส่แล้วไม่ต้องถอดเข้าถอดออก เป็นการทดแทนฟันที่สูญเสียไป ด้วยการยึดซี่ฟันปลอมเข้ากับฟันซี่ข้างข้างๆ อย่างถาวร ทำให้ใช้งานง่ายเหมือนฟันธรรมชาติ ซึ่งสามารถทดแทนฟันได้มากกว่า 1 ซี่ และมีวัสดุให้เลือกหลากหลาย ซึ่ง สะพานฟัน จะไม่สามารถทำได้ทุกกรณีเหมือนกับฟันปลอมชนิดถอดได้ เพราะสะพานฟันสามารถใส่ในช่องว่างของฟันไม่เกิน 2-3 ซี่เท่านั้น รวมทั้งฟันที่อยู่ติดกับช่องว่างต้องแข็งแรง เยื้อยึดรากฟันกระดูกหุ้มรากฟัน สภาพสันเหงือก ต้องอยู่ในสภาพที่ดีด้วย
วิธีการทำสะพานฟัน
- ทันตแพทย์จะใส่ยาชาเพื่อระงับอาการเจ็บ แล้วทำการกรอฟันหลัก โดยจะเป็นฟันซี่ข้างๆ ของช่องฟันที่หายไป เพื่อใช้เป็นหลักยึดสะพานฟัน ส่วนช่องฟันที่หายไปจะเรียกว่า ฟันลอย (Pontic หรือ ฟันปลอม)
- พิมพ์ฟัน แล้วส่งไปทำสะพานฟัน ที่ห้องแลป
- เลือกสีฟันให้ตรงกับฟันธรรมชาติที่เหลืออยู่ของคนไข้
- ใส่สะพานฟันชั่วคราวให้คนไข้ ระหว่างรอสะพานฟันที่ส่งไปที่ห้องแลปเสร็จ แล้วนัดคนไข้มาอีกครั้ง
- เมื่อสะพานฟันที่ส่งไปห้องแลปเสร็จ รื้อสะพานฟันชั่วคราวออก และนำสะพานฟันถาวรใส่ลงไป แพทย์จะนำมาลองสวมว่าพอดีกับฟันและช่องปากของเราหรือไม่ ตรวจสอบความแนบแน่น และรูปร่าง ความสูงของสะพานฟันอย่างระเอียด
- ปรับจนเข้าที่แล้ว ทันตแพทย์จะทำการยึดสะพานฟันกับฟันหลักด้วยซีเมนต์ที่ใช้เฉพาะในปาก แล้วขัดแต่งจนมีความสมบูรณ์แบบ
- อาจมีการนัดครั้งที่ 3 เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยเมื่อใช้งานไปแล้วอีกครั้ง
ประเภทของสะพานฟัน
- สะพานฟันแบบธรรมดา ประกอบไปด้วยการครอบฟันสองซี่บริเวณด้านข้าง และมีการครอบฟันลอย เพื่อใช้ทดแทนบริเวณช่องว่างที่สูญเสียไป เป็นตัวเชื่อมครอบฟันที่ยึดติดบนฟันซี่ด้านข้าง
สะพานฟันแบบธรรมดา - สะพานฟันแบบมีหลักยึดข้างเดียว ประเภทนี้จะใช้ฟันข้างเคียงเพื่อยึดเกาะเพียงซี่เดียว โดยสามารถทำได้กันฟันที่อยู่ในบริเวณที่ไม่มีแรงกดมาก เช่น ฟันหน้า
สะพานฟันแบบมีหลักยึดข้างเดียว - สะพานฟันแบบแมรี่แลนด์ เป็นการทำครอบฟันลอย ยึดติดกับแกนโลหะและใช้วัสดุเรซิ่นที่ทำให้คล้ายกับปีกยึดติดอยู่ที่ด้านหลังของฟันด้านข้างๆ ซึ่งจะทำให้ไม่เห็นรอยต่อ สะพานฟันวิธีนี้เหมาะสำหรับฟันหน้า และฟันหลังที่จะใช้ยึดเกาะต้องมีลักษณะที่สมบูรณ์ รวมทั้งช่องว่างของฟันที่เสียหายไปไม่ควรใหญ่มากนัก
สะพานฟันแบบแมรี่แลนด์
วัสดุที่ใช้ทำสะพานฟัน
- ประเภทเซรามิกผสมโลหะ จะให้สีสันที่เหมือนฟันจริง และมีความแข็งแรงทนต่อการบดเคี้ยว ทำให้สามารถทดแทนฟันกรามได้
- แบบเซรามิกล้วน ส่วนใหญ่จะใช้ทดแทนฟันหน้า เพราะเซรามิกล้วนจะมีความใส สวยงามเหมือนฟันธรรมชาติ กว่าประเภทอื่นๆ
- แบบโลหะล้วน (ทอง) เหมาะสำหรับฟันกราม เพราะสะพานฟันประเภทนี้มีความแข็งแรงและทนทานมากที่สุด ทนต่อการกัดกร่อนและบิ่นได้ดี ไม่แตกเหมือนเซรามิก แต่มีสีที่ค่อนข้างสังเกตเห็นได้ง่าย
ข้อดีของการทำสะพานฟัน
- ฟันที่มีช่องวางหากปล่อยไว้นาน โดยที่ไม่รีบแก้ไขอย่างถูกวิธี อาจทำให้ฟันบริเวณข้างเคียงล้ม เก จนอาจจะเสียโครงสร้างฟัน ทำให้ปัญหาฟันร้ายแรงกว่าเดิม
- อาจจะทำให้เกิดโรคเหงือกได้ เพราะโดยปกติแล้ว ฟันแต่ละซี่จะช่วยเสริมและแบ่งเบาน้ำหนักซึ่งกันและกัน เอนผิงกันอย่างมีนัยสำคัญ เวลาบดเคี้ยวอาการ เมื่อขาดฟันซี่ใดซี่หนึ่ง อาจทำให้แรงกดบริเวณนั้น กดลงสู่เหงือกและเนื้อเยื่อบริเวณช่องปากมากเกินไปอีกด้วย
- การทำสะพานฟันจะช่วยให้คนไข้มีความรู้สึกมั่นใจมากขึ้น เพราะไม่ต้องกังวลกับฟันที่เป็นช่อง และไม่ต้องมีปัญหาต้องถอดๆ ใส่ๆ เหมือนฟันปลอม
การปฏิบัติตัวหลังทำสะพานฟัน
- หลังการทำสะพานฟัน 24 ชั่วโมง ต้องงดรับประทานอาหารที่มีความแข็ง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะสร้างความเสียหายให้แก่สะพานฟัน
- หากมีอาการบวมให้บ้วนปากด้วยน้ำเกลือโดยการผสมเกลือ 1 ช้อนชากับน้ำอุ่น 1 แก้วอย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง
- ต้องดูแลเอาใจใส่สุขภาพช่องปากอย่างดี และควรทำความสะอาดบริเวณที่ติดกับสะพานฟันอยู่เสมอ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงการเกิดโรคเหงือก
- อาการเสียวฟัน อาจเกิดขึ้นได้ แต่จะหายไปเองในเวลาไม่นาน ซึ่งผู้ที่มีอาการเสียวฟันหลังการทำสะพานฟัน ไม่ควรรับประทานอาหารที่ร้อนหรือว่าเย็นจัด และงดอาหารที่เป็นกรดสูง และควรใช้ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปากที่มีสารฟลูออไรด์สูง เพื่อลดอาการเสียวฟันด้วย
- ควรใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ โดยเน้นเฉพาะตรงกลางสะพานฟัน เพื่อลดการเกิดหินปูนสะสมและขจัดคราบต่างๆ ให้หมดไปได้ และต้องมาพบแพทย์ทุก 6 เดือนเพื่อเช็คว่ามีการรั่ว การผุ บริเวณสะพานฟันรึเปล่า และเพื่อให้แพทย์ตรวจเช็คว่าคนไข้ดูแลความสะอาดของสะพานฟันได้ดีมากน้อยเพียงไรด้วย
สะพานฟัน จึงเป็นงานทันตกรรมที่ช่วยให้คนไข้มีความมั่นใจในฟันที่ไม่มีช่องว่าง ช่วยขจัดปัญหาการหลุดเลื่อนเหมือนการใช้ฟันปลอม รวมทั้งยังมีการดูแลรักษาที่ง่าย เพียงแค่แปรงฟันปกติเหมือนอย่างที่เราดูแลฟันธรรมชาติของเราเท่านั้น
สะพานฟัน (Dental Bridge) >> คลินิกทันตกรรมโลตัสอ่อนนุช