Parts of Speech คืออะไร

 

         ก่อนที่เราจะเรียนรู้ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับแกรมม่า (Grammar) หรือไวยากรณ์ ยังมีอีกหัวข้อเรื่อง Parts of Speech ที่เราควรรู้ก่อนเพราะมันคือพื้นฐานของการเรียนรู้แกรมม่าเลยก็ได้ เราลองมาทำความรู้จัก Parts of Speech กันนะค่ะ ว่ามีอะไรบ้างแต่เราชนิดใช้อย่างไรและควรอยู่ตำแหน่งไหน สำคัญอย่างไร

 

Parts of Speech คืออะไร

  • Parts of Speech คือ ชนิดของคำพูด

 

         คำภาษาอังกฤษที่เราพูดหรือเขียนกันอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของ Parts of Speech เช่นกัน ดังนั้นเราจึงควรเรียนรู้พื้นฐานส่วนนี้เพื่อให้เข้าใจและต่อยอดในการเรียนส่วนอื่นๆของภาษาอังกฤษ  โดย Parts of Speech แบ่งออกเป็น 8 ชนิดคือ

    • Noun – คำนาม
    • Pronoun – คำสรรพนาม
    • Verb – คำกริยา
    • Adverb – คำกริยาวิเศษณ์
    • Adjective – คำคุณศัพท์
    • Preposition – คำบุพบท
    • Conjunction – คำสันธาน
    • Interjection – คำอุทาน

  1. Noun  คำนาม คือ คำที่ใช้เรียกชื่อ คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ คุณสมบัติหรือคุณค่าต่างๆ เช่น
    • คน เช่น Lisa , Mario , Nicolas
    • สัตว์ เช่น Cat , Snake , Elephant
    • สิ่งของ เช่น Chair , Pen , Car
    • สถานที่ เช่น Office , Bangkok , Thailand
    • คุณสมบัติหรือคุณค่า  เช่น happiness (ความสุข) , anger(ความโกรธ) , kindness(ความมีเมตตา), health(สุขภาพ), friendship(มิตรภาพ), Truth(ความจริง) , Wisdom(ปัญญา) , Goodness(ความดี)
  2. Pronouns  คำสรรพนาม หมายถึงคำที่ใช้แทน Noun(คำนาม) เพื่อลดการพูดหรือเขียนชื่อคน สัตว์ สิ่งของ ฯลฯ ซ้ำๆกันในประโยคเดียวกัน เช่น
    • I(ฉัน), you(คุณ), we(เรา), he(เขา), she(เธอ), it(มัน), they(พวกเขา), Mine(ของฉัน), yours(ของคุณ), his(ของเขา), hers(เธอ), theirs(), myself(ตัวเอง)
  3. Verb คำกริยา  คือคำที่หรือกลุ่มคำที่เป็นการแสดงออก เช่น 
    • run(วิ่ง), walk (เดิน),do(ทำ), eat(กิน), play(เล่น)
  4. Adverb คำวิเศษณ์ เป็นคำที่เราใช้ขยายคำกริยา  เพื่ออธิบายคำกริยาให้ชัดเจนขึ้น เช่น  
    • เกิดขึ้นอย่างไร (How)
    • เมื่อไหร่ (When)
    • บ่อยแค่ไหน (How often)
    • ที่ไหน (Where)
    • เท่าไร (How much)
  5. Adjective คำคุณศัพท์ เป็นคำที่ใช้ขยาย หรือกลุ่มคำที่ช่วยขขยาย คำนามหรือ คำสรรพนาม ให้มีความหมายชัดเจนขึ้น  
    • higher income  : รายได้สูงขึ้น
    • Net price  : ราคาขาดตัว
  6. Preposition  คำบุพบท เป็นคำที่ใช้เชื่อมคำนามและคำสรรพนาม เข้ากับคำอื่นๆที่อยู่ในประโยค เพื่อให้ได้ใจความที่ชัดเจนขึ้นและรูปแบบประโยคที่สละสลวยขึ้น เช่น
    • on : บน
    • in front of : ข้างหน้า
    • under  : ข้างใต้ 
    • beside  : ข้าง
    • inside : ข้างใน
    • around :  รอบๆ
    • between : ระหว่าง
  7. Conjunction  คำสันธาน คำที่ใช้เชื่อมกลุ่มคำ, วลี หรือประโยคต่างๆ ให้เชื่อมโยงซึ่งกันและกัน เพื่อแสดงถึงความคล้อยตาม ขัดแย้ง หรือสามารถใช้เชื่อมข้อความให้เกิดความสละสลวย เช่น
    • and :  และ 
    • but : แต่
    • or : หรือ
    • because : เพราะว่า
    • so : ดังนั้น
  8. Interjection  คำอุทาน คำที่ใช้แสดงอารมณ์และความรู้สึก ซึ่งอาจจะเป็นคำเดียวหรือเป็นประโยคก็ได้ และบางคำอาจมีความหมายหรือไม่มีก็ได้ เช่น
    • Ah!  : อ้า
    • Wow!  : รู้สึกประหลาดใจ
    • Ew  : รู้สึกรังเกียจ
    • Aw :  รู้สึกเอ็นดู/เห็นใจ 
    • What a sad thing it is! : มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอะไรอย่างนี้ 
    • Oh! I didn’t know that : โอ้! ฉันไม่รู้ว่า

        
         หากคุณเข้าใจรูปแบบและชนิดของคำเหล่านี้ จะทำให้การเรียนภาษาอังกฤษของคุณสนุกและง่ายขึ้น

ร่วมแชร์กับ Getstorypoint

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *