แอ่น แอ้น แอ๊น… ไม่ใช่เสียงเปิดตัวฮีโร่ในหนังหรือการ์ตูนแต่มันคือ ant ที่แปลว่ามดต่างหาก ระดับเสียงก็จะแตกต่างกันออกไปตามความตกใจของคนเจอเพราะมดก็เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่พร้อมจะบุกเข้าบ้านไปสร้างความรำคราญได้ตลอดเวลา ลำพังเข้ามากินอาหาร ของหวาน ขนม ต่างๆ ก็ว่าน่ารำคราญมากแล้ว ถ้าใครโชคร้ายหน่อยก็จะเจอมดประเภทที่เข้าไปทำลายข้าวของ เช่น กัดเสื้อผ้าเป็นรู หรือเข้ากัดแทะพวกอุปกรณ์อิเลคทรอนิคต่างๆ ให้ได้รับความเสียหายจนพังเลยก็มี ที่สำคัญคือจำนวนมดที่คุณเห็นนั้นมันเป็นแค่ส่วนน้อยนั่นหมายความว่าจริงๆ แล้วมีรังมดอยู่ใกล้ๆ บ้านคุณแล้วภายในรังก็จะมีกองทัพมดอีกมากมายมหาศาลที่พร้อมจะโจมตีอาหาร เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า แบบถวายหัวเลย แต่ถึงอย่างนั้นการป้องกันมดโดยปกติแล้วก็ไม่ได้ยากนักเมื่อเทียบกับแมลงสาบเพราะมดทำรังอยู่ในดินกับต้นไม้เป็นหลักแต่แมลงสาบมันจะทำรังอยู่ในบ้านเลย สำหรับการป้องกันไม่ให้มดเข้าบ้านก็คงหนีไม่พ้นเรื่องความสะอาดของบ้านนั่นก็คือต้องไม่ปล่อยให้มีเศษอาหาร เศษขนม หรือพวกที่มีความหวานหล่นตามพื้นหรือที่ต่างๆ หรือแม้กระทั่งซากสัตว์อย่างจิ้งจกก็ไม่ควรปล่อยให้มี ควรทำความสะอาดและเก็บกวาดให้เรียบร้อยทุกครั้งหลังทานอาหารหรือกินขนมเสร็จ และจัดเก็บส่วนที่เหลือเข้ากล่องหรือบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร ปิดฝาให้มิดชิดเสมอ หมั่นตรวจดูว่ามีซากสัตว์ขนาดเล็กหรือไม่ถ้ามีก็รีบเก็บกวาดให้เรียบร้อย เพียงเท่านี้มดก็จะไม่เข้ามาหาคุณแน่นอน แต่…ในความเป็นจริงคนเราก็มีเผลอหรือลืมกันได้บ้างเพราะเราต่างก็มีงานและกิจกรรมที่ต้องทำซึ่งทำให้เราล้าหรือเหนื่อยจนบางครั้งลืม หรือขี้เกียจทำเพราะอยากพักผ่อนเต็มีหลังทำกิจกรรมมา ดังนั้นก็ต้องใช้วิธีเฉพาะหน้าเพื่อกำจัดมดออกไปก่อน ดังนี้ 1.น้ำส้มสายชู (Vinegar) ถ้าคุณเจอมดอยู่อย่างแรกให้กำจัดมดออกไปก่อนไม่ว่าจะเป็นเอาผ้าชุดน้ำเช็ดออก หรือกวาดไป หรือยังไงก็ได้ แล้วเอาน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำแบบ 1:3 (น้ำส้มสายชู 1 : น้ำ 3) นำไปใส่ขวดสเปรย์แล้วฉีดตามบริเวณที่เจอมดและฉีดไล่ไปตามทางที่มดเดิน […]
Category Archives: เรื่องน่ารู้คู่บ้าน
คนที่ทำอาหารเป็นประจำจะทราบดีว่า บางครั้งเวลาทำอาหารที่มีกลิ่นแรงๆ กลิ่นของอาหารจะติดมืออยู่แบบข้ามวันข้ามคืน ล้างน้ำธรรมดา ก็ไม่หมดกลิ่น เรามีเทคนิคกำจัดกลิ่นเหม็น กลิ่นคาวที่ติดมือมาฝากกันค่ะ เทคนิคกำจัดกลิ่นเหม็น กลิ่นคาวที่ติดมือ อาหารบางชนิดมีประโยชน์และอร่อยเวลาปรุงเสร็จแล้ว แต่ตอนทำกลับทำให้มีกลิ่นติดมือ และถ้าไม่กำจัดจะรู้สึกรังเกียจ รวมถึงรบกวนคนอื่นที่มาใกล้ชิดด้วย ดังนั้น มาจัดการกลิ่นเหล่านั้นให้หมดไปเถิด ด้วยวิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้ ล้างกลิ่นคาวด้วยน้ำปูนแดง ทำง่ายๆ เพียงเอาปูนแดงที่คนแก่ใช้กินหมาก ใส่น้ำแล้วรินเอาแต่น้ำปูนแดงมาล้างมือ ผลที่ได้คืออาจมีกลิ่นปูนแดงติดมือมาบ้าง แต่กลิ่นคาวจะหายไป อาจจะต้องทำซ้ำหลายครั้งกลิ่นคาวจึงจะหายหมด ใช้ผักกาดขาวที่จะเอาไปผัดกินนั่นแหละ เอามาถูขยี้กับมือให้ทั่วถึง เสร็จแล้วล้างด้วยน้ำชา ผลลัพธ์จะได้กลิ่นผักและชาติดมือหอมๆ ส่วนกลิ่นเหม็นคาวจะจางลง ไม่ถึงกับหมด ต้องทำซ้ำๆ เกลือป่นก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยลบกลิ่นคาวปลาง่ายๆ เอามาถูมือให้ทั่วๆ เสร็จแล้วล้างน้ำออก วิธีนี้กลิ่นคาวปลาจะหายไปเกือบครึ่งทีเดียว ใช้ข้าวสวย ประมาณ 1 กำมือ มาถูให้ทั่วๆ มือ แล้วค่อยล้างน้ำออกเป็นอีกวิธีที่ได้ผล หรือบางคนใช้น้ำซาวข้าวก็ได้ผลดีไม่แพ้กัน ยาสีฟันที่เราใช้ประจำวัน ยิ่งชนิดที่มีรสซ่าๆ แปรงแล้วมีกลิ่นมิ้นท์เย็นๆ ยิ่งดี […]
หนู เป็นสัตว์ที่ไม่ได้เลี้ยงแต่ชอบเข้ามาอยู่ในบ้าน และมาแล้วก็สร้างความรำคาญ กัดทำลายข้าวของหรืออึในบ้าน ในครัว และอาจนำเชื้อโรคร้ายมาสู่ผู้คนได้ มีวิธีกำจัดอย่างไรจึงจะไม่มากวนใจอีก รวมวิธีการกำจัดหนู ไม่ให้มากวนใจในบ้าน การกำจัดหนูมีหลายวิธี ในบทความนี้จะไม่แนะนำวิธีจับตาย เพราะมีอีกหลายวิธีที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องฆ่าให้ไม่สบายใจ แต่ความสงบสุขและปลอดภัยในบ้านจะกลับมา ด้วยวิธีต่อไปนี้ ใช้กับดักหนู กับดักไม่เท่ากับฆ่า ไม่เหมือนการใช้ยาเบื่อหนู เพราะเมื่อดักได้แล้วสามารถนำไปปล่อยในที่ไกลๆ จากบ้านหรือชุมชนได้ เม็ดไล่หนู ใช้ได้ผลแต่ก็มีสารเคมี อาจมีผลข้างเคียงกับผู้ใช้ บ้านที่เด็กเล็กควรเลี่ยงแบบเด็ดขาด สมุนไพรไล่หนู เป็นวิธีที่ได้ผลดีและปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ด้วย มีหลายสูตร ดังนี้ สมุนไพรผสม สูตรใบพลู ข่า กะเทียม เกลือ วิธีทำ นึ่งใบพลูให้สุก แล้วนำมาปั่นละเอียด นำข่าสด กะเทียม ปั่นเข้าด้วยกัน ส่วนเกลือ ต้องต้มเป็นน้ำเกลือ แล้วผสมกับของที่ปั่นเอาไว้ ใส่จานวางไว้ในบ้าน หนูเมื่อได้กลิ่นฉุนก็จะหนี น้ำมันสะระแหน่ จุ่มสำลี ใส่ตามซอกต่าง ๆ กลิ่นจะไล่หนูได้ดี มะกรูด นำมาผ่าครึ่ง โยนตามช่องต่างๆ วิธีนี้ […]
เทคโนโลยีด้านอาหารได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนถึงทุกวันนี้ คนไทยเองก็ยอมรับว่า อาหารแช่แข็ง เป็นเรื่องของการถนอมอาหารเพื่อให้มีอายุยาวนานขึ้น ไม่ใช่เรื่องของการรับประทานอาหารที่ไม่สดใหม่ อีกต่อไป ไม่เช่นนั้นธุรกิจอาหารแช่แข็งคงไม่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ส่วนถ้าเราจะทำอาหารแช่แข็งเองเพื่อให้อาหารสดนาน จะต้องทำอย่างไร มีเคล็บลับมาฝากกัน การแช่แข็งช่วยเก็บอาหารสดได้เพราะอะไร อาหารที่เก็บไว้ในอุณหภูมิปกติจะมีอายุจำกัด ด้วยสาเหตุหลายประการ ตั้งแต่ การเติบโตของจุลินทรีย์ที่ช่วยเร่งให้อาหารนั้นเน่าเสีย ยิ่งผสมกับอากาศร้อนๆ อย่างบ้านเราด้วยแล้ว ยิ่งเน่าเสียได้ง่าย จึงไม่แปลกที่จะต้องใช้ความเย็นของอุณหภูมิต่ำๆ มาช่วยยับยั้งการเติบโตของจุลินทรีย์มีแบคทีเรีย เป็นต้น อีกประการหนึ่งเป็นเรื่องของปฏิกิริยาชีวเคมีของอาหาร การทำงานของเอ็นไซม์ในพืชผักผลไม้ที่ทำให้อาหารเสื่อมคุณภาพลง ความเย็นสามารถช่วยยับยั้งการทำงานเหล่านั้นได้ดี เคล็ดลับการแช่แข็งอาหารให้สดนาน มีขั้นตอน ดังนี้ ควรทำอาหารให้สุกก่อน และต้องสุกแบบทั่วถึงด้วย ไม่ใช่สุกเพียงบางส่วนหรือเกือบๆ จะสุก หลังปรุงอาหารสุกแล้ว ต้องลดอุณหภูมิ ถ้าจะให้ลดเร็วๆ สามารถทำได้โดยนำอาหารใส่ถุงซิปล็อกไม่ให้อากาศเข้า แล้วนำถุงอาหารนั้นไปแช่ในน้ำแข็ง อุณหภูมิจะได้ลดเร็วขึ้นและปลอดภัยกว่าให้ลดลงเอง หลังจากอุณหภูมิลดลงเท่าอุณหภูมิปกติแล้ว ค่อยนำอาหารที่เย็นแล้วใส่ภาชนะที่เหมาะสมคือ เป็นภาชนะที่มีฝาปิดสนิทแล้วนำกล่องนั้นใส่ถุงซีลอีกชั้นหนึ่ง ต้องทำให้เป็นสุญญากาศ 100% นำไปแช่ในช่องแช่แข็ง อุณหภูมิที่เหมาะจะอยู่ระหว่าง -18 ถึง -20 องศาเซลเซียส จัดระเบียบในช่องแข็งให้ดี ข้อควรระวังเกี่ยวกับการแช่แข็งอาหาร การทำอาหารสดแช่แข็งนั้นจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้ความชื้นเข้าไปในผนึกอาหารที่บรรจุแล้ว ไม่เช่นนั้นอาจเกิดพิษขึ้น […]
แม้ไลฟ์สไตล์ของแม่บ้านยุคใหม่ จะเลือกหาความสะดวกสบายเรื่องการกิน แต่ก็ยังมีไม่น้อยที่ยังรักจะทำอาหารรับประทานเองในครอบครัว และจะซื้อผักผลไม้มาครั้งละมากๆ หรือบางทีซื้อตามซุปเปอร์มาร์เก็ตที่จัดเป็นแพ็ก ทำให้กินมื้อเดียวไม่หมด ต้องเก็บไว้กินในมื้อต่อไป ซึ่งหากเก็บไม่ดีพอ ของก็จะเน่าเสียหรือเปลี่ยนสีไปไม่น่ากิน ลองมาดูเคล็ดลับการเก็บผักให้สดอยู่ได้นาน ไม่ยากแต่ดี เคล็ดลับเก็บผักให้สดอยู่ได้นาน ผักแต่ละชนิดมีความทนแตกต่างกัน บางชนิดเน่าเสียง่าย เช่น ผักใบเขียวต่างๆ ผักบุ้ง ผักชี ผักกาดหอม รวมถึงผลไม้ ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ต้องอาศัยการแช่ตู้เย็นเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยยืดอายุของผักนั้น แต่ข้อเสียของตู้เย็นคือ ความเย็นจะทำให้ผักถูกดูดเอาน้ำที่ทำให้ผักสดออกไป ดังนั้น ควรเรียนรู้เกี่ยวกับเคล็ดลับเก็บผักให้สดอยู่ได้นาน ตามแนวทางดังนี้ ซื้อมาแล้ว ต้องนำผักออกจากถุง เพราะผักที่บรรจุใส่ถุงอยู่ในห้างร้านเมื่อมาถึงในมือเราจะสังเกตเห็นละอองน้ำเกาะอยู่ในถุง ก่อนเก็บผักควรเลือกใบที่เสียทิ้งออกก่อน ควรแยกเก็บผักแต่ละประเภทออกจากกัน อย่าเก็บรวม ยิ่งถ้าเป็นผักและผลไม้ยิ่งไม่ควรรวมกัน เพราะก๊าซที่ปล่อยออกจากผลไม้ที่กำลังสุกยิ่งจะทำให้ผักเสียเร็วขึ้น หากเป็นผักชนิดมีรากติดมา ควรเก็บรากไว้ก่อน เมื่อถึงเวลานำไปปรุงอาหารค่อยตัดรากออก ภาชนะที่ใช้เก็บผักเลือกได้หลายแบบ ตั้งแต่ใช้กล่องพลาสติกฝาปิดสนิท ใช้ถุงซิป แม้แต่ขวดน้ำดื่ม น้ำอัดลมพลาสติกก็สามารถประยุกต์ใช้สำหรับเก็บผักได้ เลือกภาชนะเก็บรักษาผักให้เหมาะสม ใช้ขวดน้ำพลาสติกขนาดใหญ่ ขวดน้ำหรือขวดน้ำอัดลมขนาดลิตรขึ้นไป ตัดขวดตามขวาง หล่อน้ำนิดหน่อยก่อนจะใส่พวกผักชี ต้นหอมลงไป โดยให้โคนมีน้ำเลี้ยงราก […]
บ้านที่สร้างจากไม้หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้ต่างๆ มีศัตรูตัวสำคัญคือปลวก สัตว์ตัวเล็กๆ แต่ร้ายกาจ มีสมรรถนะในการทำลายล้างสูง เราจะมีวิธีการจัดการกับปลวกภายในบ้านได้อย่างไร ลองมาดูกัน วิธีป้องกันไม่ให้มีปลวกภายในบ้าน การจัดการกับปลวกที่ดีกว่าการกำจัดเมื่อมีปลวกอยู่ในบ้านก็คือ การรู้จักป้องกันและระมัดระวังข้าวของภายในบ้านที่เป็นอาหารปลวกซึ่งได้แก่ ไม้ เป็นอาหารอันโอชะของปลวก แต่ไม้อยู่ในโครงสร้างองค์ประกอบของบ้านทุกหลังแม้แต่อาคารที่เป็นตึก หากจ้างผู้รับเหมาสร้างบ้านต้องมีระบบฉีดยาป้องกันปลวก หากซื้อบ้านจัดสรรจะมีระบบป้องกันให้อยู่แล้ว แต่ระหว่างนั้นก็ต้องมีการสำรวจตรวจตราเพราะอาจมีปลวกที่มาเยือนใหม่ได้ ต้องฉีดน้ำยาเป็นระยะตามอาการบอกเหตุ สังเกตบริเวณบ้านของตัวเองที่เป็นไม้ เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ เป็นอีกจุดล่อแหลมที่อาจทำให้มีปลวกในบ้านได้ เวลาเลือกซื้อต้องสำรวจให้ดี สอบถามรายละเอียดให้ชัด โดยเฉพาะการจ้างทำ ควรวางไว้ให้แสงแดดส่องถึง จะได้ไม่เกิดความชื้น กระดาษ เป็นอีกหนึ่งอาหารอันโอชะของปลวก บ้านที่สะสมหนังสือ ชั้นวางทำจากไม้ต้องระวังให้ดี มีการเคลื่อนย้ายหนังสือ ทำความสะอาด ไม่ปล่อยให้อับชื้น ทิ้งไว้นานๆ มาดูอีกทีอาจมีปลวกกินไปแล้วก็ได้ ต้องระวังเรื่องความอับชื้นภายในบ้านให้มากเพราะกระตุ้นให้ปลวกมาแล้วเติบโตอย่างดี วิธีจัดการกับปลวกภายในบ้าน ก่อนที่ปลวกจะทำลายข้าวของภายในบ้านให้มลายหายไป ต้องมีการรับมือปลวกแต่เริ่มต้นมาเยือน โดย เอาเฟอร์นิเจอร์ออกไปตากแดด เพราะปลวกไม่ชอบแดดจัด ย้ายปลวกจากข้าวของภายในบ้าน โดยการล่อปลวกมาไว้แล้วเอาไปทำลาย เช่น ใช้กล่องกระดาษแข็งหรือไม้ ทำให้ชื้นนำไปล่อให้ปลวกย้ายมาหาอาหารใหม่ที่เราเอาไปล่อ แล้วนำออกไปเผา ทำลายนอกบ้าน กำจัดปลวกจากพืชสมุนไพรธรรมชาติ เช่น […]
เครื่องใช้ภายในบ้านที่เป็นสนิม ทำให้ไม่น่าใช้งานต่อ แต่คุณไม่จำเป็นต้องรีบทิ้งหรือซื้อใหม่ เพราะเป็นการสิ้นเปลือง เพียงเรียนรู้วิธีกำจัดคราบสนิมให้เครื่องใช้เหล่านั้นด้วยวิธีง่ายๆ ก็สามารถยืดอายุการใช้งานเครื่องใช้เหล่านั้นไปได้อีก ลองมาดูกันว่า มีวิธีกำจัดคราบสนิมภายในบ้านอย่างไรบ้าง สนิมเกิดกับเครื่องใช้ภายในบ้านได้อย่างไร สนิมเกิดจากการทำปฏิกิริยาของน้ำและความชื้นกับวัสดุที่เป็นเหล็กหรือวัสดุอื่นที่มีคุณสมบัติอย่างเดียวกัน เนื่องจาก ธรรมชาติของอากาศบ้านเราเป็นประเภทร้อนชื้น จึงมีความชื้นสะสมอยู่ในบรรยากาศสูง ยิ่งในห้องครัวที่มีการหุงต้มเปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นไอลอยในอากาศ มีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ตามเครื่องใช้บางส่วน โอกาสที่เครื่องใช้ในครัวเรือนจะเป็นสนิมยิ่งมีมากขึ้น รวมวิธีกำจัดคราบสนิมภายในบ้าน งานกำจัดคราบสนิมภายในบ้านสามารถเลือกได้หลายวิธี บางวิธีเรามีอุปกรณ์เครื่องมืออยู่แล้วด้วย น้ำส้มสายชู ของประจำครัวเรือนที่มีไว้ปรุงอาหาร มีสภาพความเป็นกรดอยู่ สามารถกำจัดสนิมได้ด้วยวิธีง่ายๆ โดยนำอุปกรณ์ที่เป็นสนิมไปแช่ในน้ำส้มสายชู หรือใช้สำลีหรือผ้าจุ่มน้ำส้มให้ชุ่มแล้วพันแปะเครื่องใช้เอาไว้ ทิ้งให้น้ำส้มสายชูทำปฏิกิริยากับสนิม อาจใช้แปรงหรือฟองน้ำมหัศจรรย์มาเพิ่มแรงขัดก็ยิ่งขจัดได้เร็วขึ้น มันฝรั่ง เป็นพืชหัวที่มีกรดชาลิกอยู่โดยธรรมชาติ ส่วนใหญ่นิยมใช้ร่วมกับพวกน้ำยาล้างจานหรือสบู่หรือบางคนใช้คู่กับเกลือ ใช้ได้กับเครื่องใช้หรืออุปกรณ์ที่เป็นสนิมไม่มากนัก ขัดแล้วทิ้งให้ทำปฏิกิริยากับสนิมสักพัก แล้วค่อยล้างออก หัวหอม เป็นพืชอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยขัดสนิมที่เป็นจุดๆ ตามเครื่องใช้สแตนเลสที่ใช้งานมานานๆ ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ขัดเบาๆ ด้วยกระดาษทรายละเอียดก่อนค่อยใช้หัวหอมขัดตาม มะนาว ผลไม้รสเปรี้ยวที่มีความเป็นกรดโดยธรรมชาติอีกอย่างหนึ่ง ช่วยกำจัดสนิมได้เป็นอย่างดี วิธีการคือ ใช้เกลือทาบริเวณที่เป็นสนิมแล้วบีบน้ำมะนาวผสมลงไปแล้วขัดให้สนิมหลุด ใช้ได้ดีไม่เฉพาะกับเครื่องครัว แม้สนิมที่ติดตามเสื้อผ้าก็ใช้ได้ ดังนั้น แม้สนิมที่ติดตามพรมในบ้านก็ใช้สูตรนี้ได้ หลังขัดสนิมออกแล้ว ให้ล้างด้วยน้ำสะอาด […]
ชีวิตประจำวันของทุกคน มักจะวนเวียนอยู่กับเครื่องอุปโภคประเภท ”น้ำยา” สารพัดชนิดที่จำเป็นต้องใช้เพื่อการทำความสะอาด แต่รู้หรือไม่ว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมีทั้งประโยชน์และโทษอยู่ในตัวเอง ใช้ผิดอาจถึงชีวิตได้ สาเหตุที่ทำให้มีภัยจากน้ำยาทำความสะอาด หากจะประมวลเกี่ยวกับน้ำยาทำความสะอาดที่อาจนำสารอันตรายเข้ามาสู่ชีวิตประจำวัน ก็จะอยู่ในกลุ่มเหล่านี้ คือ น้ำยาซักผ้า ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้ มุ่งเน้นในการทำความสะอาดขจัดคราบที่ติดบนผ้า และต้องเน้นเรื่องซักแล้วต้องทำให้ผ้าขาว บางชนิดเพิ่มความสดใส แต่ยิ่งเน้นฟอกผ้าขาวเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีสารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรท์ผสมอยู่ สารพวกนี้มีฤทธิ์กัดกร่อน ทำให้เกิดอาการระคายเคืองจากสัมผัส หากสูดดมก็ระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ น้ำยาปรับผ้านุ่ม มีสารที่ทำให้ผ้านุ่มซึ่งเป็นกรด และมีสารที่ให้กลิ่นหอมซึ่งเป็นสารสังเคราะห์มีเคมีที่มีผลต่อทั้งผิวเมื่อสัมผัส การสูดกลิ่นก็มีผลต่อทางเดินหายใจ น้ำยาล้างจาน เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ใกล้ชิดกับชีวิตมาก สารที่ช่วยขจัดไขมัน เพิ่มความวาวให้กับจาน สารฆ่าเชื้อโรค และยังมีสารแต่งกลิ่น ถ้าล้างไม่สะอาดหมดจด อาจมีสารตกค้างที่ทำให้เกิดปัญหากับระบบทางเดินอาหาร น้ำยาทำความสะอาดพื้นผิวและสุขภัณฑ์ ยิ่งกำจัดคราบหนักๆ ด้วยแล้ว โครงสร้างสารเคมีประเภทมีเช่น กรดไฮโดรคลอริกที่มีความเป็นกรดสูง ยิ่งมีเปอร์เซ็นต์สูงยิ่งขจัดคราบได้เร็วทันตา เพียงเทราดลงไปบนผลิตภัณฑ์หรือเครื่องใช้ คราบสกปรกก็หายไปในพริบตา ซึ่งผู้ใช้ก็อนุมานได้ว่า มีสภาพเป็นกรดเข้มข้น สามารถทำลายระบบทางเดินหายใจ และหากเผลอรับประทานก็ทำลายระบบทางเดินอาหารแบบร้ายแรง ถ้ามากก็ทำลายได้ถึงอวัยวะ ชีวิต ข้อควรระวังในการใช้ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ จำเป็นต้องใช้เพื่อประโยชน์ที่มี แต่ต้องระวังโทษที่แอบแฝง จึงต้องมีข้อควรระวังดังนี้ […]
รถยนต์ของเรานอกจากจะเป็นพาหนะช่วยพาตัวเราไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกขึ้นแล้ว ยังเปรียบเสมือนเครื่องหมายแสดงตัวตนของเจ้าของได้ดี ไม่ว่าจะเป็นชนิด ประเภทของรถยนต์ที่เลือกใช้ และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ เรื่องความสะอาดของตัวรถ ความสะอาดบ่งบอกตัวตนของเจ้าของ ซึ่งเราสามารถทำเองได้ ไม่ต้องจ้าง! ปัจจัยที่ควรรู้ก่อนทำความสะอาดรถด้วยตัวเอง แต่ละส่วนของรถยนต์ต้องการการดูแลที่ต่างกัน เช่น ตัวรถต้องระวังมากกว่าส่วนล้อ บังโคลน ระวังเรื่องคราบน้ำที่เกิดขึ้นจากการล้างด้วย แม้สะอาดแต่เป็นคราบก็ทำให้ดูเหมือนยังสกปรกอยู่ ขั้นตอนการเตรียม อุปกรณ์ที่ใช้ควรแยกเป็น 2 ชุด ชุด 1 ใช้กับตัวรถส่วนบน อีกชุดหนึ่งใช้กับส่วนล้อและอื่นๆ ที่อาจจะสกปรกกว่าแต่ระมัดระวังน้อยกว่า ผสมน้ำยาหรือแชมพูล้างรถกับน้ำสะอาด ควรแยกถังว่า ถังไหนล้างตัวรถ ถังไหนล้างส่วนอื่นๆ ของรถที่อาจสกปรกกว่าแต่ไม่ต้องระวังมากเท่าตัวถังรถ ใช้ฟองน้ำหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ ไม่ใช้ผ้าที่ทำให้เกิดขุยติดรถ แปรงหลายขนาด สำหรับทำความสะอาดยาง และตามซุ้มล้อ สายฉีดพร้อมหัวฉีดที่ทำให้ทำได้เร็วขึ้น วิธีล้างทำความสะอาดรถแบบง่าย ฉีดน้ำเปล่าเพื่อทำความสะอาดรถเบื้องต้น เพื่อไล่สิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนผิวๆ รวมถึงแรงดันน้ำจะช่วยไล่สิ่งสกปรกที่หยาบได้ด้วย ฉีดโฟมให้ทั่ว ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือฟองน้ำล้างรถจุ่มน้ำแล้วเช็ดทำความสะอาด การทำความสะอาดรถ ให้ทำความสะอาดส่วนที่สกปรกก่อนคือส่วนของล้อ ส่วนตัวรถให้เริ่มจากส่วนบนคือหลังคารถ แล้วไล่ลงมาตามตัวรถ อย่าลงแรงหนักและเช็ดทำความสะอาดเป็นแนวตรง ไม่ถูแบบวนๆ และทำความสะอาดผ้าเป็นระยะ เมื่อเช็ดทั่วแล้ว ให้ฉีดน้ำทำความสะอาดให้ทั่วรถ […]
หลังจากที่เราเหน็ดเหนื่อยกันมายาวนานไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน พอถึงช่วงหน้าร้อนก็จะเป็นช่วงของการผ่อนคลายของใครหลายๆ คน การพักผ่อนอยู่บ้านหรือไปหาร้านชิคๆ ชิลๆ สไตล์โมเดินผสมผสานกับธรรมชาติก็นับว่าช่วยให้เราได้เพลิดเพลินและผ่อนคลายได้ดีอีกทาง แต่ว่าฤดูร้อนก็ไม่ได้มีแค่เราที่ลัลล้าเพราะว่าฤดูร้อนคือฤดูที่เราจะพบแมลงวันได้เยอะที่สุดซึ่งพวกมันจะทำลายบรรยากาศการทานอาหารของคุณและสร้างความรำคาญเป็นอย่างมากทีเดียว แล้วอะไรละเป็นตัวเรียกความสนใจของแมลงวันให้เข้ามา?? คำตอบก็คือขึ้นอยู่กับประเภทของแมลงวันโดยถ้าเป็นแมลงวันตามบ้านทั่วๆไปพวกมันจะชอบของเสียต่างๆ และเนื้อที่กำลังเน่าเปื่อย ถ้าเป็นพวกแมลงวันตามผลไม้พวกมันจะชอบของที่มีส่วนประกอบของน้ำตาล เช่น ผลไม้ที่สุกมากๆ น้ำอัดลม และพวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอีกจำพวกคือแมลงหวี่ขนที่มักจะพบตามส้วมพวกนี้ชอบความชื้นกับของที่มีสารอินทรีย์ประกอบเพราะเหมาะกับการวางไข่ของพวกมัน เราลองมาดูวิธีการกำจัดแมลงวัน แบบธรรมชาติ ไม่ต้องใช้สารเคมีกันครับ ว่าทำอย่างไรได้บ้าง 1. น้ำมันตะไคร้ (Lemongrass essential oil) กลิ่นที่คนชอบแต่แมลงวันไม่ชอบก็คือกลิ่นของตะไคร้ ดังนั้นน้ำมันจากตะไคร้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีเลยเพราะนอกจากจะช่วยไล่แมลงวันให้ไปไกลๆ แล้วยังทำให้เรารู้สึกสดชื่นเพราะกลิ่นหอมของตะไคร้ด้วย ถ้าจะให้เอาน้ำมันตะไคร้ไปฉีดตรงๆ ก็จะเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ดังนั้นให้เอาน้ำอุ่นครึ่งแก้วใส่ในขวดสเปรย์ขนาดพอเหมาะแล้วเติมน้ำมันหอมตะไคร้ลงไปประมาณ 20-25 หยด ปิดฝาแล้วเขย่าให้เข้ากัน จากนั้นนำไปฉีดตามทางเข้าต่างๆ เช่น ประตู หน้าต่าง หรือจะฉีดตามจุดที่มีแมลงวันก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ น้ำมันตะไคร้หอม (Citronella oil), […]
- 1
- 2