เรื่องเล่าผี ผีซ่อนแอบ

เล่าเรื่องผี ผีซ่อนแอบ

     หลายๆคนคงเคยได้ยินคำโบราณที่กล่าวว่า อย่าเล่นซ่อนแอบตอนกลางคืน เพราะเดี๋ยวผีจะมาลักไปซ่อน หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่นัก แต่สำหรับเรา เราเชื่อสนิทเพราะเราเคยผ่านเหตุการณ์นั้นมาแล้ว

เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราตอนเด็กๆ ตอนนั้นเราอายุ 9 ขวบ เราเป็นเด็กต่างจังหวัดอยู่กับ ปู่ย่า เป็นครอบครัวใหญ่ มีเด็กอยู่รวมกัน 6 คน มีพี่เรา 2 คนและน้องเราอีก 3 คน บ้านที่เราอยู่เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว กั้นห้องด้วยไม้ไผ่ มีประมาณ 6 ห้อง ที่บ้านยังไม่มีไฟฟ้าเข้า
พวกเราก็ชอบเล่นกันตามประสาเด็กๆ มีอยู่วันหนึ่งหลังจากที่พวกเรากินข้าวเย็นเสร็จใกล้จะค่ำ พวกเราก็ชวนกันเล่นซ่อนแอบในบ้าน ตาแรกเราเป็นคนหา แต่เมื่อถึงตาที่เราต้องแอบ เราวิ่งไปแอบหลังตู้เสื้อผ้าในห้องนอนของปู่

เราไม่รู้ว่าเราแอบไปนานแค่ไหนแล้ว เราเริ่มรู้สึกว่าทำไมยังไม่มีใครมาหาเราสักที เสียงทุกคนก็เริ่มเงียบหายไป แสงที่สว่างสลัวก็เริ่มมืดสนิท ในใจเราตอนนั้นคิดเพียงว่าปู่น่าจะยังไม่จุดตะเกียง จนนานมากๆเราทนไม่ไหวจึงลุกและพยายามเอาตัวเองออกมาจากที่ซ่อน เรารู้สึกว่าทุกอย่างมันมืดไปหมด เราตะโกนเรียกหาพี่สาว หาปู่ หาย่า ก็ไม่มีเสียงใครตอบรับ เราจึงพยายามเดินช้าๆไปในความมืด เอามือค่อยๆคลำไปเรื่อยๆ เพื่อจะออกจากห้องของปู่ เราเดินไปอย่างนั้นสักพักเราก็ยังหาประตูห้องไม่เจอ ด้วยความที่เรายังเป็นเด็กเราเริ่ม ร้องไห้ โวยวาย ตะโกนเรียกหาทุกคน บอกว่าเราอยู่ตรงนี้ ทุกคนหายไปไหนกันหมด เราอยู่ตรงนี้ เรารู้แต่ว่าตอนนั้นเรากลัวมาก รู้สึกทุกอย่างรอบตัวมันมืดไปหมด

เราร้องไห้อยู่อย่างนั้น จนเรารู้สึกเหมือนมีแสงสว่างค่อยๆเคลื่อนเข้ามาหาเรา เราดีใจมากรีบโผเข้าไปหาคิดว่าเป็น ปู่หรือย่า แต่เราต้องหยุดชงักเมื่อคนที่เราเห็นไม่ใช่คนที่เราเคยรู้จัก เราเห็นเป็นผู้หญิงผมสีขาว หน้าตาเหี่ยวย่น ปากแดงๆเหมือนคนกินหมาก เรารู้สึกกลัวมากเริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้ง จนเราได้ยินเสียงจากผู้หญิงแก่คนนั้นพูดว่า มาอยู่กับยายสิ เดินมาหายายสิ

ตอนนั้นเราได้แต่ร้องไห้เพราะกลัวมากๆ ยายคนนั้นเริ่มเดินมาหาเราและยื่นมือมาจับเราที่แขนของเรา เราร้องไห้ไป และเงยหน้ามองยาย ตายายเริ่มแดง มือที่จับแขนเรากำแน่นขึ้นเรื่อยๆ คราวนี้เราร้องไห้เพราะความเจ็บด้วย ปากก็พูดไป ”ปล่อยหนู ปล่อยหนู” ยายเริ่มลากให้เราเดินตามไป เราไม่รู้ว่ายายคนนั้นจะพาเราไปไหน เราพยายามดิ้นแต่ก็สู้แรงยายไม่ได้ ทางที่เดินไปมันมืดมากๆ สักพักยายก็พลักเราลงไปกับพื้นแล้วพูดว่า ”แอบอยู่นี้แหละ อย่าไปไหนนะ” เรานั่งอยู่กับพื้นร้องไห้ตัวสั่นไม่รู้จะทำยังไง ตอนนั้นคิดถึงย่ากับปู่มากๆ ปากก็ร้องเรียกแต่ปู่ย่าช่วย ”หนูด้วย หนูกลัว” เราร้องอยู่อย่างนั้นไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน จนเราหมดสติไป

เรามารู้สึกตัวอีกทีก็เห็น พี่สาวนั่งจองหน้าเราอยู่ พอเราลืมตาขึ้นมา พี่สาวเราดีใจมากรีบตะโกนหาปู่กับย่า บอกว่าเราฟื้นแล้ว ตอนที่เราตื่น เรารู้สึกหนักหัวมากๆ ตัวเราร้อน เจ็บคอพูดก็ไม่มีเสียง พอเราเห็นหน้าปู่กับย่า เราดีใจมากๆร้องไห้บอกปู่กับย่าว่า หนูกลัว ตอนนั้นปู่พูดกับเราว่า ไม่เป็นไรแล้วอีหนู ปู่อยู่นี้แล้ว หมดเคราะห์หมดโศกนะลูก แล้วเราก็ไม่สบายไปอีกหลายวัน

ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา  เรามารู้เรื่องหลังจากหายป่วยแล้วว่า คืนนั้นที่เราเล่นซ่อนแอบกัน น้องที่เป็นคนหา หาเราไม่เจอ ทุกคนจึงร้องเรียกว่า เลิกเล่นแล้วออกมาเถอะ แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงเรา ทุกคนทั้งบ้านช่วยกันหาทุกซอกทุกมุมของบ้านและออกไปหารอบๆบ้านก็ไม่เจอเรา ย่าเล่าว่าคืนนั้นปู่กับย่าไม่ได้นอนเลย เพราะเป็นห่วงเรามาก พยายามหาเท่าไหร่ก็หาเราไม่เจอ จนตอนเช้าก็ช่วยกันหาก็ยังไม่เจอเรา จึงไปขอให้เพื่อนบ้านช่วยกันหาบริเวณรอบบ้านก็ไม่เจอ จนใกล้ค่ำปู่จึงไปนิมนต์หลวงพ่อที่วัด เพราะหมดหนทางแล้วจริงๆ หลวงพ่อจึงมารดน้ำมนต์และสวดมนต์ที่บ้าน

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง พี่สาวเราก็เจอเรานั่งแอบ (หมดสติ) อยู่หลังตู้ในห้องของปู่ ซึ่งเป็นที่ ที่ทุกคนเคยมาหาแล้วแต่ไม่เจอเรา หลวงพ่อท่านว่า ผีมันบังตา มันอยากเอาเราไปอยู่ด้วย ถ้าช้ากว่านี้เราคงไม่รอด หลังจากนั้นย่ากับปู่ก็สั่งห้ามทุกคนเล่นซ่อนแอบตอนหัวค่ำและกลางคืนเด็ดขาด

      จากเหตการณ์ในวันนั้นเรายังคงจำฝั่งใจ และกลัวการอยู่ที่มืดเพราะเมื่อเราอยู่ในที่มืดและแคบทีไรเราก็จะเห็นแต่หน้าของยายคนนั้นเสมอ

เรื่องเล่าอาถรรพ์-ประสบการณ์เรื่องผี

ร่วมแชร์กับ Getstorypoint

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *